วันที่ 21 พฤศจิกายน 2568 พลอากาศเอก จอม รุ่งสว่าง องคมนตรี พร้อมด้วยคณะอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เดินทางลงพื้นที่ติดตามการดำเนินโครงการปรับปรุงและขุดลอกหน้าฝายบ้านหนองเรือ และโครงการก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำบ้านหนองเรือ ต.กู่สวนแตง อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ จ.บุรีรัมย์ โดยมีนายศรีธรรม ราชแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ส่วนราชการสังกัดกระทรวงเกษตรและสกรณ์จังหวัดบุรีรัมย์ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมรายงานผลการดำเนินกิจกรรมและประโยชน์ที่ราษฎรได้รับจากการดำเนินโครงการดังกล่าว พร้อมนี้ องคมนตรี ได้มอบพันธุ์ข้าวพระราชทานให้แก่ผู้แทนเกษตรกร เยี่ยมชมสภาพพื้นที่โครงการฯ พร้อมพบปะราษฎรผู้ได้รับประโยชน์ และเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์และผลผลิตการเกษตรของราษฎรในพื้นที่
นางรัตน์ติยา พวงแก้ว ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรบุรีรัมย์ ได้รายงานให้องคมนตรี และคณะฯ ทราบว่า กรมวิชาการเกษตร โดยสำนักงานเกษตรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ดำเนินงานโครงการพระราชดำริหลายโครงการเพื่อส่งเสริมการเกษตรยั่งยืนและพัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตรกร ด้วยการถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยี ให้คำแนะนำและถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการเกษตรแก่กลุ่มเป้าหมาย ทั้งนี้ มีเกษตรกรได้รับประโยชน์และประสบผลสำเร็จจากโครงการดังกล่าว ได้แก่ กลุ่มแปลงใหญ่ผักบ้านหนองเรือ หมู่ที่ 8 (ได้รับมาตรฐานสินค้าเกษตร GAP) กลุ่มแปลงใหญ่ผักบ้านประดู่ หมู่ที่ 9 (ได้รับมาตรฐานสินค้าเกษตร GAP) กลุ่มส่งเสริมอาชีพบ้านหนองเรือ และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนทอผ้าไหมบ้านประดู่
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับโครงการปรับปรุงและขุดลอกหน้าฝายบ้านหนองเรือ และโครงการก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำบ้านหนองเรือ ไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตามที่ นายเสวียน เหนาะสิงหา ผู้ใหญ่บ้านบ้านหนองเรือ หมู่ที่ 8 ต.กู่สวนแตง อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ จ.บุรีรัมย์ และคณะ ขอพระราชทานโครงการขุดลอกลำสะแทด พร้อมก่อสร้างฝายเก็บกักน้ำ และระบบระบายน้ำ บริเวณพื้นที่รอยต่อระหว่าง ต.กู่สวนแตง อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ จ.บุรีรัมย์ และต.ละหานปลาค้าว อ.เมืองยาง จ.นครราชสีมา เพื่อช่วยเหลือราษฎรซึ่งประสบความเดือดร้อนจากอุทกภัยในฤดูฝน การขาดแคลนน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคและทำการเกษตรในฤดูแล้ง






